น.ศ. หนุ่มฮีโร่ ขับรถฝ่าเฮอริเคนไปช่วยมะหมา เพราะทุกชีวิตมีค่า อันตรายก็จะลุย

         ชื่นชมหนุ่มฮีโร่ ยอมขับรถไปไกลเพื่อช่วยชีวิตสุนัข 2 ตัวที่ติดพายุ โดยไม่สนคำเตือนภัย เพราะน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ 2 ตูบรอดชีวิต

          คอนเนอร์ คือ นักศึกษาหนุ่มชาวอเมริกันวัย 22 ปี ที่อาศัยอยู่ในเมืองออสติน รัฐเทกซัส เขาเพิ่งจบการทำงานช่วงปิดเทอม และกลับมาพักผ่อนที่บ้านเพื่อเตรียมตัวกลับไปเรียนต่อ แต่แล้วในวันที่ 23 สิงหาคม 2560 คอนเนอร์ตื่นมาพบกับข่าวว่ามีพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ซัดถล่มเทกซัส มีสุนัขที่น่าสงสาร 2 ตัวติดพายุอยู่และกำลังรอการช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าทางการจะประกาศเตือนภัย แต่คอนเนอร์ไม่สน เขารีบขับรถออกเดินทางออกจากบ้าน ฝ่าพายุที่สาหัส เพื่อช่วยชีวิตเจ้าตูบ 2 ตัวนั้น

          เรื่องราวของฮีโร่หนุ่มคนนี้ถูกนำมาเปิดเผยโดยเว็บไซต์เดอะโดโด้ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560 ย้อนกลับไปในวันนั้น คอนเนอร์ตื่นเช้าและลงมาชั้นล่าง เขาเห็นแม่กำลังอ่านโพสต์ที่แชร์ในเฟซบุ๊กอยู่ด้วยความกังวลใจ ข่าวนั้นระบุว่า สุนัข 2 ตัวชื่อ เธลม่า (Thelma) กับ เฮอร์คิวลิส (Hercules) กำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พวกมันติดพายุอยู่ที่ศูนย์สงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่งในเมืองคอร์ปัส คริสตี เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ประกาศให้ใครสักคนขับรถมาพาพวกมันหนีน้ำขึ้นเหนือ และพาไปส่งสถานสงเคราะห์แห่งใหม่ เพื่อให้พวกมันปลอดภัย

         เมื่อคอนเนอร์เห็นข่าวนั้น สิ่งเดียวที่เขาคิดก็คือ เขาต้องไปช่วยพวกมัน เขาจึงโดดขึ้นรถและขับลงใต้ทันที ในวันนั้น รถยนต์นับพัน ๆ คันต่างก็ขับออกจากเมืองคอร์ปัส คริสตี เพื่อหนีพายุ แต่คอนเนอร์กลับมุ่งหน้าเข้าสู่เมือง

          "ตอนนั้นผมแทบไม่ได้คิดอะไรเลยครับ ผมคิดแค่ว่า ต้องมีใครสักช่วยหมา  2 ตัวนั้น" คอนเนอร์เล่า

          หนุ่มนักศึกษาคนนี้ไม่เคยจับสุนัขใส่รถมาก่อน เขาไม่รู้เลยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง แต่โชคดีที่แม่ของเขาเป็นอาสาสมัครอยู่ที่สานสงเคราะห์สุนัข ลัคกี้ส์ แล็บ  เทกซัส (Lucky Lab's Texas) และ สเตฟานี บรัฟตัน ผู้จัดการฝ่ายขนส่งของที่นั่นก็ให้ความรู้แก่เขาว่าควรทำอย่างไรบ้าง โดยต้องจับพวกมันขึ้นทีละตัว ต้องผูกเชือกกับปลอกคอ ยึดไว้กับรถ เพื่อไม่ให้พวกมันกระโดดหนีเมื่อประตูเปิด

          คอนเนอร์โทร. ติดต่อกับแม่และสเตฟานีตลอดทาง เขาไปถึงคอร์ปัส คริสตี ช่วยเธลม่าขึ้นรถได้สำเร็จ แต่เฮอร์คิวลิสเป็นงานยากหน่อย มันสวมกรวยปลอกคออยู่ และมันประหม่ามาก วิ่งไปวิ่งมาอยู่ในรถตลอดทาง หลังจากเวลาผ่านไปข้ามวันจนถึงตกดึก คอนเนอร์ก็พา 2 ตูบคู่หูไปส่งยังสถานสงเคราะห์แห่งใหม่ได้สำเร็จ รอดปลอดภัยกันทั้งคู่

               เธลม่า เจ้าตูบสีน้ำตาลที่คอนเนอร์ลงทุนขับรถลงใต้หลายชั่วโมงเพื่อไปช่วย

 เฮอร์คิวลิส คู่หูของเธลม่า เจ้าขาวที่น่าสงสารที่ต้องใส่ปลอกคอ และตื่นกลัวตลอดการเดินทาง

          ทั้งนี้ไม่ใช่มีแค่คอนเนอร์คนเดียวเท่านั้น ที่เป็นฮีโร่ในยามพายุ โดย เรเน่ แนงค์ และ ซินดี้ ค็อกซ์ ก็ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือสัตว์อยู่ทางตอนใต้ของเทกซัส พวกเธอติดตั้งกรงไว้ในรถ และช่วยขนสัตว์ที่น่าสงสารหลายตัวไปยังที่ปลอดภัย  สุนัขส่วนใหญ่ได้รับการดูแลอยู่ที่สถานสงเคราะสัตว์ลัคกี้ แล็บส์ ส่วนแมวและสุนัขบางตัวถูกส่งไปยัง สถานสงเคราะห์สัตว์ออสติน เพ็ตส์ อะไลฟ์ ในเมืองออสติน และตอนนี้พวกมันทุกตัวพ้นภัยแล้ว

                                                  เรเน่ แนงค์ และสุนัขที่เธอช่วยเหลือ

เหล่าลูกแมวน่าสงสารที่ได้รับการช่วยเหลือจากพายุ ตอนนี้พวกมันปลอดภัยแล้ว

          "คอนเนอร์คือฮีโร่ที่แท้จริง เขาเสียสละและทุ่มเทมาก เขายอมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง และยอมเสี่ยงขับรถหลายชั่วโมงเขาไปในเขตเฮอริเคน เพื่อช่วยเจ้าตูบ 2 ตัวนั้น เขาคือคนหนุ่มที่น่าชื่นชมอย่างมากค่ะ และเราทุกคนซาบซึ้งในน้ำใจของเขา" สเตฟานี บรัฟตัน กล่าว

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lucky Lab Rescue and Adoption, Austin Pets Alive

https://pet.kapook.com/view178389.html

เหลือเชื่อ คุณยายวัย 84 เจอแหวนเพชรที่หายไปนาน 13 ปี ติดอยู่ในหัวแครอท !

              คุณยายวัย 84 ปี ทำแหวนหมั้นหายไปนานถึง 13 ปี เก็บไว้เป็นความลับไม่มีใครเคยรู้ อยู่ ๆ กลับมาเจออย่างไม่คาดฝัน เพราะบังเอิญแครอทเข้าไปเติบโตอยู่ในนั้น
 

               เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยรายงานชวนอึ้ง ระบุว่า คุณยายแมรี แกรมส์ วัย 84 ปี จากรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ทำแหวนเพชรซึ่งเป็นแหวนหมั้นของเธอหายไปในสวนเป็นเวลานานกว่า 13 ปี แต่ใครจะเชื่อว่า อยู่ดี ๆ วันหนึ่ง แหวนเพชรวงนั้นจะกลับมาถึงมือคุณยายอีกครั้งโดยบังเอิญ และมาในรูปแบบที่น่าเหลือเชื่อ เพราะมันติดอยู่ในหัวแครอท

               ย้อนกลับไปเมื่อปี 2547 คุณยายแมรี ได้ออกไปทำสวนปลูกผักที่ในสวนของครอบครัว กระทั่งหลังจากนั้นคุณยายก็พบว่า แหวนหมั้นของเธอหายได้ไป จึงมั่นใจว่าน่าจะทำหล่นหายที่ในสวนแห่งนั้น คุณยายแมรีเล่าว่า หลังจากที่รู้ตัวว่าทำแหวนหายไป คุณยายก็ออกแรงตามหามันอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ไม่เจอ ด้วยความที่กลัวว่าสามีจะโกรธ เธอจึงไปซื้อแหวนวงใหม่ที่คล้ายกันมาสวมใส่ พร้อมกับเก็บเรื่องแหวนที่หายไปไว้เป็นความลับเรื่อยมา

               จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านมานานถึง 13 ปี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ ๆ คอลลีน ดาเลย์ ลูกสะใภ้ของคุณยายแมรี ก็มีอันต้องประหลาดใจอย่างหนัก เมื่อพบว่าหัวแครอทหัวหนึ่งที่เธอเก็บมาจากสวน มีลักษณะผิดรูปผิดร่าง เพราะมันเติบโตอยู่ในแหวนเพชรวงหนึ่ง ซึ่งแหวนได้รัดอยู่ที่ตรงกลางหัวแครอทจนแน่น  

               คอลลีน เผยว่า หลังจากเธอพบแหวนวงดังกล่าว เธอก็เชื่อว่าน่าจะเป็นของแม่หรือยายของสามี เนื่องจากไม่มีใครอาศัยอยู่ที่สวนแห่งนั้น ก่อนต่อมาถึงได้ทราบว่า เป็นแหวนหมั้นของคุณยาย เธอรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ที่เมล็ดแครอทเข้าไปอยู่ในแหวน และเติบโตขึ้นมาได้อย่างพอดีเช่นนี้ มันเป็นอะไรที่เหลื่อเชื่อมาก และไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อน

               จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ทราบว่า ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา แหวนหมั้นของคุณยายไม่ได้หายไปไหน แต่มันยังคงอยู่ในสวนแห่งนั้น แต่เรื่องที่น่าเศร้าก็คือ สามีของคุณยาย ได้จากไปตั้งแต่เมื่อ 5 ก่อน หลังจากทั้งคู่เพิ่งฉลองวันครบรอบแต่งงานปีที่ 60 ได้เพียง 1 เดือน ซึ่งนั่นหมายความว่า สามีของเธอไม่มีโอกาสได้รู้ความจริงเรื่องแหวนหมั้นวงนี้เลย

               อย่างไรก็ดี คุณยายแมรีเผยว่า หลังจากนี้เธอก็ตั้งใจที่จะกลับมาสวมแหวนหมั้นวงเดิมที่แท้จริงวงนี้ เพราะมันยังพอดีกับนิ้วของเธออยู่ และรู้สึกว่าคุณตายังอยู่กับเธอเหมือนเดิม ไม่ได้จากไปไหน

https://hilight.kapook.com/view/158479