Friday, February 19, 2016

หดหู่มาก แก๊งนรกให้พ่อร่วมรุมโทรมลูกสาวแต่เขาปฏิเสธ สุดท้ายโดนจับข่มขืนด้วย




         เปิดเรื่องราวสลดหดหู่ เมื่อพ่อผู้สูงวัยต้องทนเห็นลูกสาวโดนแก๊งเดนนรกข่มขืนต่อหน้า แถมยังถูกชวนเข้าร่วมวงด้วย พอตอบปฏิเสธกลับตกเป็นเหยื่อกามพวกเดนนรกไปอีกราย

          วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยเรื่องราวชวนสะเทือนใจจากเหตุการณ์นองเลือดในประเทศเคนย่า หลังมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2550 แต่ประชาชนบางส่วนไม่พอใจผลการเลือกตั้ง จึงพากันก่อความวุ่นวายจนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า มีการก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบ ทั้งฆาตกรรม ปล้นจี้ ทำร้ายร่างกาย และข่มขืนกระทำชำเรา

          บทความในเว็บไซต์ของฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) ตีแผ่เรื่องราวของเหยื่อคดีข่มขืนที่รอดชีวิตมาได้ โดยเฉพาะเรื่องราวของ โจเซฟ วัย 83 ปี ผู้เป็นพ่อของลูกสาวเหยื่อถูกรุมโทรม 2 คน กับประสบการณ์ฝันร้ายที่สุดในชีวิตที่ยากจะลืมเลือน

  
        โจเซฟเล่าว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ผู้ก่อความไม่สงบมากกว่า 50 รายบุกเข้ามาในบ้าน จับลูกสาว 2 คนของเขาข่มขืนอย่างรุนแรง หนำซ้ำพวกมันยังเชื้อเชิญให้โจเซฟร่วมย่ำยีลูกสาวแท้ ๆ อีกด้วย แต่เมื่อเขาปฏิเสธ พวกมันกลับหันมาเล่นงานเขาแทน

          “มันใช้ท่อนเหล็กฟาดเข้าที่หลังหัว ถอนฟันผมทีละซี่ แล้วบอกผมว่า ถ้าอย่างนั้นแกก็มาเป็นเมียพวกข้าซะ...แล้วมันก็ข่มขืนผม” โจเซฟ เล่านาทีขมขื่น

          จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ครอบครัวของโจเซฟดำดิ่งอยู่ในความทุกข์ ลูกสาวคนโตของเขาติดเชื้อ HIV หลังถูกข่มขืน และตายไปในปี 2557 ส่วนลูกสาวอีกคนหนึ่งบาดเจ็บหนักทั้งทางกายและใจ จนกระทั่งถูกลูกธนูอาบยาพิษยิงจนถึงแก่ความตายเมื่อปีที่แล้ว



       ปัจจุบัน โจเซฟมีอายุ 83 ปี เป็นคนแก่สุขภาพย่ำแย่ที่อาศัยอยู่กับหลาน ร่างกายของเขาไม่เคยเป็นปกติอีกเลย หลังจากเกิดเหตุจลาจลสุดสะเทือนใจเมื่อหลายปีก่อน

          เหตุจลาจลวิกฤตเคนยา ปี 2550 เกิดขึ้นจากความไม่พอใจของกลุ่มวัยรุ่นที่สนับสนุนนายโอดินก้า ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเคลือบแคลงใจว่า นายคิบาคิ ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีประจำปีนั้นมีเจตนาแอบแฝง และมีการกระทำหลายอย่างส่อไปในทางทุจริต

          นอก จากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองเผ่าใหญ่ในประเทศเคนยา ที่ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองคนละขั้วเองก็อยู่ในภาวะตึงเครียดอยู่แล้ว องค์ประกอบทั้งหมดนำไปสู่การใช้ความรุนแรง การจลาจล และการนองเลือดบ้าคลั่ง

          รายงาน ระบุว่า แค่ในระยะเวลาเพียง 2 เดือนของการจลาจล ประชาชนอย่างน้อย 1,130 รายเสียชีวิต และประชาชนอีกนับ 6 แสนรายต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน

          ส่วน รายงานจากฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่า คดีที่เกิดขึ้นในระหว่างการนองเลือดน่าจะมีประมาณ 900 คดี ที่เป็นคดีเกี่ยวกับการข่มขืนกระทำชำเรา เหยื่อข่มขืนหญิงจำนวน 163 ราย และชายอีก 9 ราย สามารถรอดชีวิตมาได้ ในขณะที่อีกจำนวนมากเสียชีวิตไปแล้ว


ภาพจาก Human Right Watch 
http://hilight.kapook.com/view/133126

No comments:

Post a Comment