ผู้อำนวยการสาวแห่งศูนย์พักพิงสัตว์จรจัดในไต้หวันตัดสินใจฆ่าตัวตาย
หลังเครียดหนักจนป่วยซึมเศร้า เพราะรู้สึกผิดที่จำเป็นต้องการุณยฆาตสุนัขจรจัดหลายตัวในศูนย์
เพื่อให้มีที่พักพิงพอเพียงสำหรับสัตว์ตัวอื่น ๆ ที่จะรับเพิ่มเข้ามา
วันที่ 23 พฤษภาคม 2559 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิด เผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เจี้ยนจี้เชง สัตวแพทย์และผู้อำนวยการศูนย์พักพิงสัตว์จรจัด ชินวู ในไต้หวัน วัย 31 ปี ถูกกลุ่มคนรักสัตว์ประณามจนไม่เหลือที่ยืน และมอบฉายาว่า นักฆ่าหมาหน้าสวย หลังมีข่าวว่าเจ้าตัวจำเป็นต้องการุณยฆาตสุนัขจรจัดบางส่วน เพราะศูนย์พักพิงแทบไม่เหลือที่พอสำหรับสัตว์อื่น ๆ และเพื่อรักษาคุณภาพชีวิตสัตว์ในศูนย์พักพิง
เป็นที่รู้กันดีในหมู่เพื่อนร่วมสายอาชีพ ว่า สัตวแพทย์หญิงเจี้ยนจี้เชงนั้น เป็นคนใจดี มีเมตตา และอุทิศตนให้กับการดูแลสัตว์ทุกชนิดมาก เธอดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์พักพิงสัตว์ชินวูมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง แล้ว และที่ผ่านมาก็เคยช่วยเหลือสุนัขหลายตัวให้ได้มีบ้านถาวร รวมถึงยังสนับสนุนและรณรงค์การรับเลี้ยงสัตว์จากศูนย์พักพิง แทนที่จะไปซื้อจากฟาร์มเพาะพันธุ์
แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ในฐานะสัตวแพทย์
งานของเธอคือการช่วยเหลือสัตว์ แต่ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พักพิง งานของเธอคือการควบคุมจัดการให้ศูนย์อยู่ในสภาพที่ดีในทุกด้าน
จนเมื่อถึงจุดที่สัตว์จรจัดมีมากเกินกว่าศูนย์จะรับไหว เจี้ยนจี้เชงจึงจำเป็นต้องทำในสิ่งที่เธอไม่เคยคิดจะทำมาก่อน
คือการฉีดยาให้สุนัขหลับไปอย่างสงบ รายงานระบุว่า ในระยะเวลา 2 ปี เธอจำใจต้องการุณยฆาตเหล่าสุนัขไปกว่า 700 ตัว
เจี้ยนจี้ เชง เคยเปิดใจกับรายการโทรทัศน์ว่า เธอถูกกลุ่มคนรักสุนัขประณามอย่างสาหัส หลังมีข่าวว่า ผอ.ศูนย์ชินวูฉีดยาให้สุนัขตาย และยังได้รับฉายาว่า นักฆ่าหมาหน้าสวย นั่นทำให้เธอยิ่งรู้สึกผิดบาป จนนำมาสู่ภาวะซึมเศร้า ซึ่งในที่สุดก็นำมาสู่การตัดสินใจฆ่าตัวตาย
ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 สัตวแพทย์หญิงเจี้ยนจี้เชง ฆ่าตัวตายในบ้านของตัวเองด้วยวิธีการฉีดยาแบบเดียวกับที่ใช้การุณยฆาตสุนัข สามีและตำรวจมาพบตัวเธอก่อนสิ้นใจ แต่น่าเศร้าที่เธอเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ยังไม่มีการสรุปสาเหตุการตายที่แน่ชัดแต่อย่างใด
ด้าน เอลิซา อัลเลน รองผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์
PETA ระบุกับสื่อว่า เจี้ยนจี้เชงคือหนึ่งในเหยื่อของวงจรอุบาทว์
ที่เกิดขึ้นจากผู้ไร้ความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูสัตว์ เมื่อไม่รักก็ปล่อยทิ้งให้กลายเป็นสัตว์จรจัดตามยถากรรม
และแน่นอนว่าศูนย์พิทักษ์สัตว์ไม่อาจปฏิเสธที่จะไม่รับสัตว์มาดูแลได้ ถือเป็นการปัดภาระไปให้คนที่รักสัตว์อย่างแท้จริง
ทั้ง นี้ ทาง PETA เองก็ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของเจี้ยนจี้เชง และขอประณามผู้ที่ทิ้งขว้างสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงผู้ที่ให้การสนับสนุนการขยายพันธุ์สัตว์จรจัดจนเป็นปัญหาสังคม นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือและรณรงค์ให้รับเลี้ยงสัตว์จากศูนย์พักพิง แทนที่จะซื้อมาจากผู้เพาะพันธุ์ เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเหมือนในกรณีนี้
ภาพจาก
people
http://hilight.kapook.com/view/137294
No comments:
Post a Comment