Wednesday, January 25, 2017

สามีสุดช็อก ภรรยาแสนดีแอบขายบริการทางเพศ หลับนอนชายมาแล้วกว่า 1,000 คน




          ความจริงที่แสนโหดร้าย แม่บ้านวัย 24 เผยความลับ แอบทำอาชีพขายบริการทางเพศ หลับนอนกับผู้ชายมาแล้วมากกว่า 1,000 คน สามีสุดช็อกทนไม่ได้ไล่ออกจากบ้าน พร้อมฟ้องให้หมดสิทธิ์ดูแลลูก

          วันที่ 25 มกราคม 2560 เว็บไซต์มิเรอร์ เผยเรื่องราวชวนอึ้งปนสะเทือนใจของเมอร์เซเดส แม่บ้านวัย 24 ปี อดีตเธอเคยแต่งงานกับอดีตทหารที่ชื่อว่า แอนดรูว์ จากนั้นก็อยู่กินด้วยกันมานานกว่า 6 ปี จนมีลูกเป็นพยานรักด้วยกันถึง 2 คน แต่แล้ววันหนึ่งชะตาชีวิตของเธอกลับต้องพลิกผัน จากมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์เหมือนกับในฝัน กลับต้องกลายเป็นเพียงคนไร้บ้านและไม่ได้พบลูกอีก หลังจากความลับของเธอถูกเปิดให้อดีตสามีได้รับรู้

  
        เมอร์เซเดสได้ออกมาเปิดใจกับรายการโทศทัศน์ Dr. Phil โดยเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ เธออาศัยอยู่กับสามีและลูก ๆ อย่างอบอุ่นภายในบ้านหลังโตที่มี 7 ห้องนอน เบื้องหน้าดูเหมือนว่าเธอจะปฏิบัติหน้าที่เป็นทั้งภรรยาและแม่ที่ดีอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น เมื่อวันหนึ่งสามีได้ล่วงรู้ความลับที่เธอเก็บไว้มานาน แอบทำอาชีพขายบริการทางเพศ เคยหลับนอนกับผู้ชายมาแล้วมากกว่า 1,000 คน !

 
          "ฉันใช้ชีวิตอย่างปิดบังมาตลอด ถ้าหลาย ๆ คนที่ติดตามเฟซบุ๊กของฉันจะได้เห็นชีวิตในฝันของผู้หญิงอเมริกันคนหนึ่ง แต่ใครจะรู้ว่าความจริงแล้ว ฉันเคยเป็นสาวเอสคอร์ท (เพื่อนเที่ยว กิน นอน และมีเซ็กส์) มาตั้งแต่อายุ 14... ฉันเจอกับผู้ชายมากหน้าหลายตาไม่ต่ำกว่า 50-60 คนต่อสัปดาห์ แลกกับเงิน 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 211,000 บาท) รวมผู้ชายทั้งหมดที่ผ่านมา มากกว่า 1,000 คน" เมอร์เซเดส กล่าว

  
          เมอร์เซเดส เผยว่า เธอได้เจอกับแอนดรูว์เมื่อ 6 ปีก่อน และเขาไม่เคยรู้เรื่องในอดีตของเธอมาก่อน เขารู้เพียงแค่ว่าเธอทำอาชีพโชว์ระบำเปลื้องผ้าอยู่กับเอเจ็นซี่แห่งหนึ่ง ซึ่งมันเป็นเรื่องโกหก จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว แอนดรูว์พบว่าลูกชายคนที่สองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา และความจริงก็คือ เขาเป็นลูกของเธอกับลูกค้า ทำให้เขาถึงกับช็อกจนพูดไม่ออก ไม่นึกฝันว่าภรรยาที่เขารักจะแอบทำเรื่องเลวร้ายนี้ลับหลัง

          ขณะที่ด้านแอนดรูว์ เผยว่า เมอร์เซเดสโกหกได้อย่างน่ารังเกียจ เขามีคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่เห็นว่า เธอพาผู้ชายมาที่บ้านของเขา โดยหลังจากเขาทราบเรื่องราวทั้งหมด ก็ให้โอกาสเธอยังเป็นแม่ของลูกได้ แต่สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรามันจบแล้ว เหตุผลเดียวที่ทำให้เขายังอยู่ตรงนี้ได้นั่นก็เป็นเพราะว่าลูก ไม่เช่นนั้นตนคงจะฟ้องร้องยื่นเรื่องของเป็นผู้ปกครองลูกแต่เพียงผู้เดียวไปแล้ว

          ทว่าหลังจากนั้น เมอร์เซเดสยังได้สารภาพสิ่งที่อดีตสามียังไม่เคยทราบผ่านทางรายการอีกด้วยว่า เธอติดแอลกอฮอล์ เธอเคยร่วมหลับนอนกับหนึ่งในสมาชิกในครอบครัวของสามี เมื่อครั้งที่เขาไม่อยู่บ้าน ต้องไปปฏิบัติหน้าที่นาน 7 เดือน และเธอเคยมีเสี่ยอายุ 68 ปี เลี้ยงดู ตั้งแต่อายุ 14-16 ปี และไปอยู่ด้วยกันกับเขาที่คฤหาสถ์ของเขา

          อย่างไรก็ดี แม้ว่าในรายการดังกล่าว พี่สาวของเมอร์เซเดส ได้มาร่วมด้วย โดยเผยว่า น้องสาวไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับเสี่ยเฒ่ารายนี้เลย เธอไปอยู่ในฐานะเหมือนลูกสาว และต้องโกหกเพราะถูกบังคับ แต่ทางแอนดรูว์ เมื่อได้ฟังคำสารภาพทั้งหมดของอดีตภรรยา เขาได้เปลี่ยนใจดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายเต็มรูปแบบ และฟ้องร้องให้เธอหมดสิทธิ์ในการดูแลลูกด้วย

          จากผลของการเปิดเผยความลับครั้งใหญ่นี้ ทำให้เมอร์เซเดสต้องออกจากบ้านของแอนดรูว์ กลายเป็นคนไร้บ้านและไม่ได้ติดต่อพบเจอลูก ซึ่งเธอได้เผยว่า แม้เธอจะทำงานพิเศษเช่นนี้ แต่เธอก็ไม่มีเงินเก็บเหลือเลย ชีวิตตอนนี้เธอหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว

ภาพจาก Dr. Phil
http://hilight.kapook.com/view/148323

Tuesday, January 24, 2017

ดูไบโชว์เหนือ ผุดเทคโนโลยีดับเพลิงด้วยเจ็ทแพค เหาะขึ้นไปฉีดน้ำอย่างเท่




           ดูไบโชว์เหนือ นำเทคโนโลยีเจ็ทแพคมาใช้ในการดับเพลิง พาเหาะขึ้นไปฉีดน้ำยังสถานที่ต่าง ๆ ประหยัดเวลาเดินทาง แถมมีน้ำให้ใช้ไม่จำกัด

          วันที่ 23 มกราคม 2560 เว็บไซต์ abc.net.au ได้เผยคลิปที่ทางหน่วยงานกลาโหมของดูไบ ปล่อยออกมาเพื่อโชว์นวัตกรรมใหม่ของการดับเพลิง ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ดอลฟิน (Dolphin) โดยนำอุปกรณ์เจ็ทแพคที่สามารถช่วยให้คนเหาะขึ้นสู่ที่สูงได้ด้วยพลังน้ำ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านของการดับเพลิง


          ที่ผ่านมาดูไบมักเกิดปัญหาไฟไหม้บนตึกสูงระฟ้าหลายครั้ง และยังมีเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งปัญหาการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนนก็เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานกู้ภัยและดับเพลิง แต่ด้วยอุปกรณ์นี้สามารถทำให้พนักงานดับเพลิงใช้เจ็ตสกีเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุได้โดยทางน้ำ ย่นระยะเวลาเดินทางเข้าไปยังที่เกิดเหตุที่อยู่ติดริมน้ำ อีกทั้งในแม่น้ำยังมีทรัพยากรน้ำที่สามารถนำมาดับเพลิงได้อย่างไม่จำกัดด้วย


            เรียกว่าเป็นการประยุกต์นวัตกรรมใหม่อย่างสมเป็นเมืองแห่งความเจริญทางเทคโนโลยีอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจากนี้เราอาจได้เห็นประเทศอื่น ๆ นำเทคโนโลยีเดียวกันนี้มาใช้ในการดับเพลิงด้วยก็เป็นได้




ภาพจาก dcd997 Dubai Civil Defence
http://hilight.kapook.com/view/148241

เจ้าของมีช็อก ผลเอกซเรย์เผยชัดมีเศษกระสุนกว่า 50 ชิ้นฝังอยู่ในตัวเจ้าตูบ




          ตูบถูกพาไปหาหมอเพราะมีก้อนที่กราม แต่เมื่อเอกซเรย์ดู กลับต้องผงะ เพราะเจอเศษกระสุนฝังอยู่ในหัวกว่า 50 ชิ้น สาเหตุเพราะเคยถูกยิงใส่หน้า

          เจ้าอีริค เป็นสุนัขพันธุ์บูลเทอร์เรียเพศผู้ ที่ได้รับการช่วยเหลือเมื่อปีที่แล้ว หลังจากมันบาดเจ็บหนักจากการถูกยิงเข้าที่หน้า ปัจจุบันอีริคปลอดภัยแล้วและแข็งแรงดี แต่เมื่อมันถูกพาไปตรวจร่างกาย ทุกคนต่างพากันช็อก เพราะในหัวของอีริคมีเศษกระสุนมากมายฝังอยู่

          เรื่องราวของอีริคถูกเปิดเผยโดยเว็บไซต์มิเรอร์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2560 ระบุว่า ก่อนหน้านี้อีริคเป็นสุนัขที่อยู่ในประเทศตุรกี แต่ ลิซ ฮัสลาม ผู้ก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือสุนัข เบดส์ ฟอร์ บุลลีส์ (Beds For Bullies) ได้ช่วยเหลือมันหลังจากมันถูกยิงเข้าที่ใบหน้า และนำมารักษาตัวต่อที่ประเทศอังกฤษ ผลจากการถูกยิงทำให้สายตาอีริคมีปัญหา แต่มันก็ฟื้นตัวเป็นสุนัขที่สุขภาพดีมีความสุข เหมือน ๆ กับสุนัขทั่วไป

  
          เมื่อเวลาผ่านไป ลิซพบว่ามีก้อนแข็ง ๆ ที่กรามของอีริค เธอจึงได้พามันไปโรงพยาบาลสัตว์เพื่อตรวจดูให้แน่ชัดว่าเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งทีแรกสัตวแพทย์คิดว่าเกิดจากรากฟันอักเสบเท่านั้น แต่เมื่อดูฟิล์มเอกซเรย์พวกเขาก็มีอันต้องช็อก เมื่อพบว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจากเศษกระสุนที่ฝังอยู่ในกะโหลกของมัน แถมไม่ได้มีเพียงชิ้นเดียว กลับมีอยู่กว่า 50 ชิ้น

 
          "ตอนแรกฉันรู้แค่ว่ามันอาจจะมีเศษกระสุนหลงเหลืออยู่นิดหน่อยซึ่งจะไม่เป็นอันตรายกับอีริค แต่เมื่อเห็นฟิล์มเอกซเรย์แล้ว ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย" ลิซกล่าว

 
          สัตวแพทย์ไม่ได้ทำการผ่าตัดเอาเศษกระสุนออกให้อีริค เนื่องจากมันเสี่ยงมากและอันตรายเกินไป แต่สำหรับเจ้าอีริคแล้วนั้น ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งแปลกปลอมมากมายอยู่ในหัว แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่เดือดร้อนอะไร ยังคงวิ่งเล่นไปทั่วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องนับว่าโชคดีอย่างมากที่เศษกระสุนเหล่านั้นไม่ได้ทำอันตรายกับมัน ขณะที่เจ้าอีริคก็ได้มีชีวิตใหม่ที่แสนสุขกับเจ้านายที่รักมัน แม้จะต้องผ่านเหตุการณ์เจ็บปวดในอดีตมาก็ตาม

  
ภาพจาก Twitter @bedsforbullies
ข้อมูลจาก BBC
http://pet.kapook.com/view164828.html

Friday, January 20, 2017

ครอบครัวสุดฉงน เห็นเงาแปลก ๆ ที่สนาม ชาวเน็ตถกกันใหญ่ ตัวอะไรหว่า




       ครอบครัวย้ายเข้าบ้านหลังใหม่ได้ไม่นอนก็ต้องเจอเรื่องขนลุก ในสนามหญ้าหลังบ้านมีเงาแปลก ๆ วิ่งผ่าน เหมือนตัวอะไรสักอย่างที่แปลกประหลาดมาก ! ผีหรืออะไรเนี่ย ?

        ครอบครัวหนึ่งออกมานั่งชมพระจันทร์เต็มดวงอยู่ดี ๆ กลับพบเหตุการณ์ที่ทำให้บรรยากาศโรแมนติกกลายเป็นเรื่องชวนขนหัวลุก เมื่อในขณะที่กำลังดื่มด่ำแสงจันทร์อยู่นั้นก็มีตัวอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดมาก วิ่งผ่านหน้าไป
  
        จากรายงานของเว็บไซต์มิร์เรอร์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2560 เผยว่า สมาชิกครอบครัวรายหนึ่งสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ เมื่อพิจารณาแล้วภาพนี้มันแปลกประหลาดมาก จึงส่งให้ญาติรายหนึ่งไปตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ Imgur พร้อมโพสต์รูป ถามชาวเน็ตว่านี่มันคืออะไรกันแน่

        ภาพ 2 ภาพ ที่หนุ่มคนนี้โพสต์มีระยะเฟรมต่างกันแค่เพียง 2 วินาทีเท่านั้น จากในภาพจะเห็นได้ว่าเป็นพื้นที่บริเวณสวนหน้าบ้าน มีต้นไม้ สนามหญ้า และสามารถเห็นพระจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน ภาพแรกไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ในภาพต่อมาปรากฏอะไรบางอย่างลักษณะเหมือนสัตว์ประหลาดหรือคนตัวเล็ก ๆ วิ่งผ่านไป

        "ตอนแรกก็คิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะเลนส์กล้องเบลอ แต่มาดูอีกดี ๆ แล้วมันไม่ใช่แน่ ๆ เพราะถ้าเป็นเกิดจากเลนส์มันเบลอ มันจะมีเงาได้ยังไง "สองภาพนี้ถ่ายห่างกันแค่ 2 วินาที และไม่มีใครในบ้านนี้ใช้โฟโต้ช็อปเป็นด้วย" หนุ่มเจ้าของยูสเซอร์ MeTarzanYouJane วิเคราะห์ในกระทู้ของเขา

        เมื่อกระทู้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นในเชิงขำขัน โดยรายนี้หนึ่งกล่าวว่า สามารถการันตีได้เลยว่านี่คือ "เบบี้กรู๊ท" แน่ ๆ (มนุษย์ต้นไม้จากภาพยนตร์ Guardian of The Galaxy) ในขณะที่รายอื่น ๆ กล่าวว่า มันอาจจะเป็นภูตจิ๋ว ไม่ก็ผีคนแคระ หรืออาจจะเป็นนกฮูกก็ได้ ทั้งนี้การถกเถียงก็ยังคงดำเนินไปไม่จบสิ้น และยังคงไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดว่าตกลงแล้ว เจ้าสิ่งที่เห็นนี้มันคืออะไรกันแน่ ?

ภาพจาก imgur.com
http://hilight.kapook.com/view/147908