ช็อก ! นักข่าวสาว-ช่างภาพ ถูกยิงดับกลางรายการสด ด้านคนร้ายยิงตัวเอง

            นักข่าวสาว-ตากล้อง ถูกอดีตเพื่อนร่วมสถานียิงเสียชีวิต ขณะกำลังถ่ายทำรายการสดออกอากาศ ด้านตำรวจจัดทีมออกไล่ล่า ก่อนที่คนร้ายจะใช้ปืนยิงตัวเอง

             เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 เว็บไซต์เดลี่เมล์ รายงานจากรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า นายอดัม วอร์ด ตากล้อง อายุ 28 ปี และนางสาวเอลิสัน ปาร์คเกอร์ นักข่าวอายุ 24 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง ขณะที่กำลังถ่ายรายการสัมภาษณ์สด นาง วิคกี้ การ์ดเนอร์ ประธานหอการค้าท้องถิ่น ส่งผลให้นายอดัมและนางสาวเอลิสันเสียชีวิต ส่วนนางวิคกี้ ถูกยิงเข้าที่หลังและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดด่วน

 
          ทั้ง นี้ขณะเกิดเหตุนางสาวเอลิสัน ปาร์คเกอร์ จากช่อง WDBJ7 ทีวีท้องถิ่นลูกข่ายของ CBS กำลังสัมภาษณ์ นางวิคกี้ เกี่ยวกับข่าวสวนน้ำซึ่งเป็นข่าวเบาสมอง จากนั้นจึงมีเสียงปืนดังขึ้น 8 นัด และมีเสียงของผู้หญิงกรีดร้องก่อนที่กล้องจะหล่นลงพื้น ซึ่งกล้องสามารถจับภาพของชายคนหนึ่งสวมชุดสีดำ กำลังยืนใกล้ที่เกิดเหตุ และกำลังเล็งปืนมาที่นายอดัม วอร์ด

            ด้านผู้จัดการทั่วไปของช่อง WDBJ7 ได้ออกมายืนยันว่า ทั้งเอลิสันและอดัมเสียชีวิตแล้วในเช้าวันนี้ ส่วนนางวิคกี้ การ์ดเนอร์ ก็ถูกยิงเข้าที่หลัง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

             ทั้งนี้ เอลิสัน ปาร์คเกอร์ คือผู้สื่อข่าวสำหรับรายงานข่าวช่วงเช้า เธอเป็นคนในท้องที่ และเธออาศัยอยู่ในมาร์ตินวิลล์ เธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเจมส์ เมดิสัน เมื่อ 3 ปีก่อน และเข้ามาฝึกงานกับสถานีข่าวอย่าง ABC และ FOX รวมถึงยังเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย

             ด้านนายอดัม วอร์ด จบจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทค เขาเองเคยเป็นนักเรียนที่โรงเรียนมัธยมซาเล็ม

            เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ คือ นายเวสเตอร์ แฟลนาแกน (Vester Flanagan) โดยนายเวสเตอร์ เคยเป็นอดีตลูกจ้างสถานีโทรทัศน์เดียวกับเอลิสันและอดัมที่ถูกยิงเสียชีวิต และเขามีความโกรธแค้นกับทางสถานีดังกล่าว ภายหลังก่อเหตุ ได้มีการโพสต์ภาพของมือปืนขณะที่จ่อปืนเข้าไปที่เอลิสัน และข้อความว่า "ผมบันทึกภาพตอนยิงเอาไว้ ดูในเฟซบุ๊ก " ผ่านทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า Bryce Williams อีกด้วย

             นอกจากนี้ ทางสำนักข่าวเอบีซี ยังออกมาเผยว่า ทางสำนักข่าวได้รับแฟกซ์ 23 หน้าจากคนที่ใช้ชื่อว่า Bryce Williams และเอกสารฉบับดังกล่าวถูกส่งให้หน่วยสืบสวนแล้ว

             ล่าสุด (27 สิงหาคม 2558) เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้เผชิญหน้ากับนายเวสเตอร์ แฟลนาแกน ที่ถนนอินเตอร์สเตท 66 และนายแฟลนาแกนก็ตัดสินใจยิงตัวเอง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

             นายเวสเตอร์ แฟลนาแกน เคยทำงานที่สถานีโทรทัศน์ WDBJ7 ในฐานะผู้สื่อข่าวประมาณ 1 ปี โดยที่เขาใช้ชื่อในวงการว่า Bryce Williams จากนั้น เขาเองก็ถูกไล่ออกจากบริษัทโดยที่ทางบริษัทไม่ได้เปิดเผยเหตุผลให้สาธารณชน รับทราบ และตำรวจยังเชื่อว่า ตอนนี้เขาเองยังอาศัยอยู่ในเวอร์จิเนียด้วย 

*อัพเดทข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2558 เวลา 00.48 น.

 ภาพจาก news .videos, ทวิตเตอร์ beaver_ch5,

http://hilight.kapook.com/view/125522

ช็อกกลางงานฝังศพ! จู่ๆสาวเกิดฟื้นคืนชีพ-กรีดร้องลั่น ญาติต้องช่วยกันทุบโลง

 

เว็บไซต์มิร์เรอร์รายงานเหตุที่ชาวบ้านต้องช่วยกันทุบหลุมศพช่วยวัยรุ่นสาว ที่คิดว่าตายไปแล้วซึ่งติดอยู่ภายใน หลังส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนตายอีกรอบ

เหตุเกิดที่เมืองลา เอ็นตราดา ทางตะวันตกของประเทศฮอนดูรัส หลังชาวบ้านและครอบครัวที่กำลังเศร้าเสียใจจากการเสียชีวิตของ น.ส.เนย์ซี เปเรซ วัยรุ่นสาววัย 16 ปี ได้ยินเสียงร้องออกมาจากโลงศพ จึงเร่งทุบโลงศพเพื่อนำร่างของหญิงสาวออกมา แต่หญิงสาวออกมาได้เพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นก่อนเสียชีวิตจริงๆในเวลาต่อมา

โดยก่อนหน้าที่เธอจะเสียชีวิต น.ส.เปเรซ ซึ่งกำลังท้อง 3 เดือน หมดสติหลังเดินมาเข้าห้องน้ำภายนอกบ้านในกลางดึกของคืนหนึ่ง เชื่อกันว่าเธอเป็นลมเพราะตกใจเสียงกระสุนนัดหนึ่งที่ถูกยิงขึ้นในตอนนั้นพอ ดี จากนั้น น.ส.เปเรซมีน้ำลายฟูมปาก พ่อแม่ของเธอจึงไปเชิญนักบวชมารักษา โดยนักบวชเชื่อว่า น.ส.เปเรซ ถูกผีเข้า จึงได้ประกอบพิธีไล่ผี ก่อนนำน.ส.เปเรซ ส่งโรงพยาบาลและแพทย์ประกาศว่าเธอเสียชีวิตใน 3 ช.ม. ต่อมา

ครอบครัวทำการฝัง น.ส.เปเรซ ในชุดเจ้าสาวที่เธอเคยใส่ในงานแต่งงาน จนกระทั่งผ่านไป 1 วันหลังงานศพ สามีของ น.ส.เปเรซ คือ นายรูดี กอนซาเลซ ไปเยี่ยมที่หลุมศพ และได้ยินเสียงทุบโลงและกรีดร้องจากภายในหลุมศพคอนกรีต ครอบครัวจึงช่วยกันทุบหลุมศพเพื่อพยายามช่วย น.ส.เปเรซ

นายกอนซาเรซ กล่าวว่า "ผมได้ยินเสียงจากข้างใน เสียงทุบและเสียงของเธอ เธอกรีดร้องให้ช่วย มันผ่านไปแล้ว 1 วันหลังจากที่เราฝังเธอ มันแทบไม่น่าเชื่อ"

    ครอบครัวเร่งนำน.ส.เปเรซไปโรงพยาบาล หลังนำตัวเธอออกมาได้ แต่ผลการทดสอบชี้ว่าเธอเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อทำอะไรไม่ได้ ในที่สุดแล้วครอบครัวต้องนำร่างของเธอกลับไปฝังยังที่เดิม

    น.ส.คาโรไลนา เปเรซ ญาติของน.ส.เปเรซ กล่าวว่า "ตอนที่เรานำตัวเธอออกมา ฉันจับดู ร่างของเธอยังอุ่นๆ นอกจากนี้ยังมีรอยที่หน้าผากและแผลที่นิ้วของเธอ มันเหมือนกับว่าเธอพยายามจะออกมาจากโลงด้วยตัวเองจนได้รับบาดเจ็บด้วย"

  ด้านพ่อแม่ของ น.ส.เปเรซ มั่นใจว่าลูกสาวถูกฝังทั้งเป็น จึงโทษทีมรักษาที่ประกาศว่าน.ส.เปเรซเสียชีวิตเร็วเกินไป

ที่มา Mirror

ขอบคุณคลิปจาก SePurTube

ข่าวสด

ชายโพสต์ขายทีวีเก่า จอสะท้อนเงาหรา ภาพสาวโป๊ยืนถ่ายภาพทีวี

         เจ็บนี้อีกนาน ชายโพสต์ขายของไม่ดูตาม้าตาเรือ ติดเงาสะท้อนภาพผู้หญิงที่ยืนโป๊จังก้า หน้าทีวีเข้าเต็ม ๆ ลบรูปแทบไม่ทัน

          วันที่ 24 สิงหาคม 2558 เว็บไซต์เดลี่เมล  เปิดเผยภาพชวนอึ้งจากกลุ่มขายสินค้ามือสองในเว็บไซต์เฟซบุ๊กนามว่ากลุ่ม “Dubbo Trash and Treasure” ที่จู่ ๆ ก็มีเรื่องให้ได้ฮากันยกกลุ่ม เมื่อชายหนุ่มรายหนึ่งโพสต์ประกาศขายโทรทัศน์เก่าพร้อมคำบรรยายว่า “ทีวีเก่า ยังใช้งานได้ เสนอราคามา”

          อาจ จะดูเป็นการประกาศขายของธรรมด๊า ธรรมดา แต่ปัญหามันอยู่ที่ ภาพทีวีที่เขานำมาใช้ประกอบการขายนั้น ดันมีเงาสะท้อนของหญิงสาวรูปรางอวบอั๋น ยืนแก้ผ้าทั้งตัวแล้วถ่ายภาพทีวีอยู่ด้วยเนี่ยสิ ! อือหือ เต็มตากันเลยทีเดียว

          เรียก ได้ว่าเก็บไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจก็แล้วกัน คราวหน้าคราวหลังจะโพสต์อะไรก็เช็กดี ๆ กันก่อนนะ ไม่งั้นจะช้ำใจไปอีกนานแบบพ่อหนุ่มรายนี้ก็เป็นได้ ฮิฮิ

ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Liloulamoi

http://hilight.kapook.com/view/125363

โผล่อีก ! คลิปรับน้องไม่สร้างสรรค์ ให้น้องนอนทับกัน โดนวิจารณ์เละ

            ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ รุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้องไม่เหมาะสม ให้รุ่นนอนนอนคร่อม ช่วยกันทับลูกโป่งน้ำให้แตก ดูอนาจาร ชี้เป็นสิ่งที่ผู้มีปัญญาชนไม่ควรทำ

            เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2558 โลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ กิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ความยาว 02.07 นาที เผยให้เห็นภาพการรับน้องที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมทางเพศ โดย รุ่นพี่จับคู่รุ่นน้องให้นอน 1 คน และให้อีกคนขึ้นคร่อม พร้อมใช้ลูกโป่งที่บรรจุน้ำวางไว้บนลำตัว แล้วให้รุ่นน้องทำให้ลูกโป่งแตกโดยไม่ให้ใช้มือ ซึ่งภาพที่ออกมามีลักษณะค่อนข้างอนาจาร

            ทั้งนี้ ภายหลังที่มีการเผยแพร่คลิปออกไป ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเป็นจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิจารณ์อย่างหนัก ว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่สร้างสรรค์ รวมถึงระบุว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่ปัญญาชนควรจะทำ อย่างไรก็ตามคลิปดังกล่าวไม่ได้ระบุชื่อสถาบันใดไว้

ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN

http://education.kapook.com/view127306.html