แค่ตุ๊กตายางแบบเหมือนคนจริงยังไม่พอ
ผู้เชี่ยวชาญคาด อีก 50 ปีข้างหน้า คนมีเซ็กส์กับหุ่นยนต์ได้เป็นเรื่องปกติ
แถมความรู้สึกไม่ต่างจากมีกับคนด้วยกัน !!
คำโปรยด้านบนนี้อาจฟังดูน่าตกใจ แต่ถ้าลองมองย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา มนุษย์เราในตอนนั้นก็คงไม่คิดไม่ฝันว่า คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่เท่ากล่องจะถูกย่อส่วนลงมาทำงานอย่างลื่นไหลบนได้ในจอสี่ เหลี่ยมขนาดเท่าฝ่ามือ หรือแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ไดรฟ์ A จะอันตรธานไปแล้วกลายเป็นไมโครชิปอันจิ๋วแต่จุข้อมูลได้อื้อซ่ากว่าหลายพัน เท่า สิ่งที่ฟังดูตลกเหลือเชื่อในยุคนั้นได้เกิดขึ้นจริง ๆ เมื่อเวลาล่วงผ่านไป พร้อม ๆ กับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วเหตุใดด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และสมองกลที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ๆ ในปัจจุบันนี้ จะพาเราไปสู่จุดที่ "มนุษย์มีเซ็กส์กับหุ่นยนต์" ไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่ ดอกเตอร์เฮเลน ดริสโคล นักจิตวิทยาทางเพศ จากมหาวิทยาลัยซันเดอร์แลนด์ของอังกฤษ ได้ทำนายเอาไว้ในบทความที่เขียนให้กับเว็บไซต์ฮัฟฟิงตัน โพสต์เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2558
"Robophilia" จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่ หมายถึง การมีความสัมพันธ์ทางเพศกับหุ่นยนต์ ที่กำลังจะกลายเป็นสิ่งธรรมดา ๆ ไปในอนาคตไม่ไกลนี้ ในปัจจุบันมนุษย์เราก็มีการระบายความใคร่กับ "ตุ๊กตายาง" ซึ่งทำได้เหมือนคนจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ และด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และสมองกลที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มันมีชีวิตขึ้นจริง ๆ (เสมือนจริงกว่าเดิม) ได้
คำโปรยด้านบนนี้อาจฟังดูน่าตกใจ แต่ถ้าลองมองย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา มนุษย์เราในตอนนั้นก็คงไม่คิดไม่ฝันว่า คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่เท่ากล่องจะถูกย่อส่วนลงมาทำงานอย่างลื่นไหลบนได้ในจอสี่ เหลี่ยมขนาดเท่าฝ่ามือ หรือแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ไดรฟ์ A จะอันตรธานไปแล้วกลายเป็นไมโครชิปอันจิ๋วแต่จุข้อมูลได้อื้อซ่ากว่าหลายพัน เท่า สิ่งที่ฟังดูตลกเหลือเชื่อในยุคนั้นได้เกิดขึ้นจริง ๆ เมื่อเวลาล่วงผ่านไป พร้อม ๆ กับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วเหตุใดด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และสมองกลที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ๆ ในปัจจุบันนี้ จะพาเราไปสู่จุดที่ "มนุษย์มีเซ็กส์กับหุ่นยนต์" ไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่ ดอกเตอร์เฮเลน ดริสโคล นักจิตวิทยาทางเพศ จากมหาวิทยาลัยซันเดอร์แลนด์ของอังกฤษ ได้ทำนายเอาไว้ในบทความที่เขียนให้กับเว็บไซต์ฮัฟฟิงตัน โพสต์เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2558
"Robophilia" จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่ หมายถึง การมีความสัมพันธ์ทางเพศกับหุ่นยนต์ ที่กำลังจะกลายเป็นสิ่งธรรมดา ๆ ไปในอนาคตไม่ไกลนี้ ในปัจจุบันมนุษย์เราก็มีการระบายความใคร่กับ "ตุ๊กตายาง" ซึ่งทำได้เหมือนคนจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ และด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และสมองกลที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มันมีชีวิตขึ้นจริง ๆ (เสมือนจริงกว่าเดิม) ได้
สมองกลจะถูกพัฒนาให้คล้ายกับมนุษย์ มากขึ้นเรื่อย ๆ
จนมากพอที่จะทำให้คนเรารู้สึกผูกพัน ไปจนกระทั่งตกหลุมรักสมองกลนั้นได้ ตัวอย่างที่ช่วยให้เข้าใจสิ่งนี้ได้มากขึ้น
ดังเช่นในภาพยนตร์เรื่อง Her (2013) ที่ตัวละครชายตกหลุมรักระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่โต้ตอบกับมนุษย์ได้ไม่
ต่างจากคนจริง ๆ (คล้าย Siri)
ดอกเตอร์เฮเลนเสนอว่า ความเหมือนกันอย่างแนบเนียนระหว่างโลกจริงและเสมือนจริง จะเป็นประโยชน์ทางจิตวิทยามากสำหรับผู้ที่อยู่โดดเดี่ยวไร้คู่ หรือสูญเสียคนรักไป เพราะอย่างน้อยการมีคู่ที่แม้จะเป็นหุ่นยนต์ ก็ย่อมดีกว่าไม่ใครเลย แต่นั่นก็อาจนำไปสู่ปัญหาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่คนอาจมองว่าการมีเซ็กส์เสมือนจริงนี้เท่ากับการนอกใจ
ดอกเตอร์เฮเลนเสนอว่า ความเหมือนกันอย่างแนบเนียนระหว่างโลกจริงและเสมือนจริง จะเป็นประโยชน์ทางจิตวิทยามากสำหรับผู้ที่อยู่โดดเดี่ยวไร้คู่ หรือสูญเสียคนรักไป เพราะอย่างน้อยการมีคู่ที่แม้จะเป็นหุ่นยนต์ ก็ย่อมดีกว่าไม่ใครเลย แต่นั่นก็อาจนำไปสู่ปัญหาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่คนอาจมองว่าการมีเซ็กส์เสมือนจริงนี้เท่ากับการนอกใจ
นอกจากนี้ แม้ว่าในปัจจุบัน เทคโนโลยีที่สมองกลที่จำลองความคิดแบบคนจริง ๆ อาทิ Siri, แอพพลิเคชั่น Xiaoice ของจีน ที่มีแชทบอทคอยสนทนาตอบโต้กับผู้ดาวโหลดไปใช้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนอกหักไร้คู่ที่ต้องการเพื่อนคุย, แอพพลิเคชั่นแฟนสาวเสมือนจริงของญี่ปุ่น เป็นต้น สามารถนำมาสู่ปัญหาทำให้ผู้ใช้งานขาดทักษะการเข้าสังคมกับคนจริง ๆ ไป เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว และส่งผลต่อสุขภาพจิตตามมา
แต่เทคโนโลยีในอนาคตก็จะทำให้สมองกลมีความคิด โต้ตอบได้คล้ายคลึงกับมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็จะเหมือนเสียจนไม่สามารถแยกได้ว่า "สมองกลเสมือนจริง" และ "โลกจริง" แตกต่างกันอย่างไร และนั่นทำให้มนุษย์ในอนาคตมีแนวโน้มเลือกคบแฟนเสมือนจริงแทนคนจริง ๆ หรืออย่างน้อยก็ไม่ต้องเผชิญความทุกข์ใจ หากแยกความสัมพันธุ์ระหว่างหุ่นยนต์กับมนุษย์ไม่ออก
http://hilight.kapook.com/view/124398
No comments:
Post a Comment