Monday, October 12, 2015

หนุ่มอ้วนฉุถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล หลังสั่งพิซซ่ามากินในช่วงรีดหุ่น





          หนุ่มร่างยักษ์หนักเกือบ 400 กิโลกรัม ถูกไล่ตะเพิดออกจากโรงพยาบาล หลังสั่งพิซซ่ามากินในห้องผู้ป่วย ทั้ง ๆ ที่ถูกสั่งให้จำกัดการทานอาหารเพื่อลดน้ำหนัก กระแสสังคมเห็นใจก่อนตีกลับอย่างแรง หลังถูกขุดคลิปเก่ามาแฉ หนุ่มอ้วนเย้ยพวกเสียภาษี ขอบคุณพวกหน้าโง่ที่ทำให้ตนได้ข้าวได้ยาฟรี ๆ

            เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2558 เว็บไซต์เมโทร เปิดเผยว่า นายสตีเฟน แอสซานติ วัย 33 ปี หนุ่มชาวโรดไอแลนด์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีน้ำหนักถึง 363 กิโลกรัม ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลโรดไอแลนด์ มาเป็นเวลาราว 80 วันแล้ว ทั้งนี้เพื่อควบคุมอาหารและลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ภายใต้คำสั่งของแพทย์ โดยหวังว่าจะลดน้ำหนักให้เหลือประมาณ 250 กิโลกรัม

            แต่ ด้วยความอยากอาหารอย่างแรงกล้า เขาโทรศัพท์สั่งพิซซ่ามาทานที่ห้องผู้ป่วย และนั่นทำให้เขาถูกไล่ตะเพิดออกจากโรงพยาบาล ฐานไม่ทำตามกฎของการลดน้ำหนัก

            ด้าน สตีเฟน เวลเลตต์ ผู้เป็นพ่อบอกว่า เขาจะไม่พาลูกชายกลับบ้าน เพราะถ้ากลับบ้านแล้วอาจทำให้พฤติกรรมการกินของเขากลับมาเป็นอย่างเดิมอีก ในตอนนี้สตีเฟนต้องนอนอยู่ท้ายรถ SUV ของพ่อ ที่ตระเวนขับไปตามโรงพยาบาลต่าง ๆ จนกว่าพวกเขาจะยอมรับสตีเฟนเป็นคนไข้ในการดูแล

            "ผมไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ผมโทรหาทุกคน ทุกคนเท่าที่ผมจะรู้จักในรัฐโรดไอแลนด์แห่งนี้ แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครช่วยผมได้เลย" สตีเฟน ตัดพ้อ

            ทั้งนี้ สำนักงานสังคมสงเคราะห์กำลังดำเนินการเพื่อหาโรงพยาบาลให้กับเขาในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่โรงพยาบาลโรดไอแลนด์ไม่ขอออกความเห็นใด ๆ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

            อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นข่าวใหญ่โต ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความเห็นใจต่อพ่อหนุ่มรายนี้ ในขณะที่ชาวเน็ตบางรายได้ขุดคลิปวิดีโอที่เขาเคยอัดไว้เมื่อ 2 ปีก่อนมาแฉ

            โดยในคลิปวิดีโอปรากฏภาพนายสตีเฟน ที่สบถคำหยาบคายในทำนองประชดประชันและด่าทอผู้เสียภาษีทุกคนในรัฐโรดไอแลนด์ โดยกล่าวว่า "ขอบคุณมากนะพวกผู้เสียภาษีหน้าโง่ทั้งหลาย ที่ทำให้ฉันมีข้าว มียา มีบ้าน แล้วก็มีคอมพิวเตอร์ไว้ใช้ พวกแกมันหน้าโง่จริง ๆ"

            หลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าว และคลิปวิดีโออื่น ๆ ที่เขาเคยอัพโหลดไว้ในเว็บไซต์ยูทูบถูกงัดขึ้นมาแฉ ทำให้กระแสของชาวเน็ตตีกลับในทันที ตอนนี้กลายเป็นว่าหลาย ๆ คนพากันสมน้ำหน้าและแสดงความสมเพชในตัวหนุ่มสตีเฟนแทนเสียแล้ว เฮ้ออ....

ภาพจาก or-politics.com
http://hilight.kapook.com/view/127708

No comments:

Post a Comment