Friday, September 30, 2016

แชร์สนั่น ! สาวเลี้ยงอาหารชายไร้บ้าน-ชวนมานั่งด้วยกัน ก่อนได้รับโน้ตที่คาดไม่ถึง




         แชร์สนั่น เมื่อสาวคนนี้หยิบยื่นน้ำใจเล็ก ๆ แก่คนไร้บ้าน ซื้ออาหารให้และชวนมานั่งคุยกัน ก่อนได้รับโน้ตที่ทำให้เธอต้องอึ้งไป

          นับเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่ถูกแชร์ต่อออกไปในวงกว้าง และยังมีผู้หยิบยกมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง สำหรับสิ่งที่ เคซีย์ ฟิชเชอร์ คุณแม่ยังสาวนำมาเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ให้คนบนโลกออนไลน์ได้ทราบถึงสิ่งเธอพบเจอมา หลังจากที่เธอตัดสินใจเลี้ยงข้าวชายไร้บ้านคนหนึ่ง ชวนเขามานั่งทานอาหารและพูดคุยกัน

          โดยล่าสุด (30 กันยายน 2559) เว็บไซต์ LittleThings ซึ่งได้หยิบยกเรื่องของสาวคนนี้มาพูดถึงอีกครั้ง เผยว่า เคซีย์ ซึ่งกำลังทานอาหารเช้าที่ร้านอาหาร ได้พบชายไร้บ้านที่เดินเข้ามาในร้านและพยายามจะสั่งอาหาร อย่างไรก็ตามเธอเห็นเขามีเงินเพียงแค่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34 บาท) เธอจึงซื้อกาแฟกับขนมเบเกิลให้เขา ชวนให้เขามานั่งร่วมโต๊ะกัน ก่อนที่เธอจะชวนเขาคุยกระทั่งชายคนนี้ ซึ่งเธอทราบชื่อว่า คริส ยอมเปิดปากเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง

          "เขาเล่าว่า หลายคนรังเกียจและปฏิบัติตัวแย่ ๆ กับเขา เพราะว่าเขาเป็นคนจรจัด เขาเกลียดยาเสพติดแต่เขาก็กลายเป็นคนที่ติดมันซะเอง เขาไม่เคยรู้ว่าพ่อของเขาคือใคร เขาอยากเป็นลูกที่ทำให้แม่ภูมิใจแต่แม่เขาก็จากไปแล้วด้วยโรคมะเร็ง ชายผู้น่ารักคนนี้มีชื่อว่า คริส และคริสคือคนที่ซื่อสัตย์และจริงใจที่สุดที่ฉันเคยเจอมาในชีวิต"

          หลังจากที่นั่งคุยกันหลายชั่วโมงก็ถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องแยกกัน แต่คริสได้ขอเวลาเคซีย์ครู่หนึ่งเพื่อที่เขาจะได้เขียนอะไรบางอย่างให้เธอ เขายัดเศษกระดาษที่ขยำเป็นก้อนกลมใส่มือเธอพลางขอโทษขอโพยสำหรับลายมือแย่ ๆ ของเขา ก่อนจะยิ้มและเดินจากไป

  
         หลังจากที่เคซีย์กลับมาที่รถ เธอได้เปิดโน้ตจากชายไร้บ้านอ่าน ก่อนจะพบข้อความที่ทำให้เธอต้องอึ้ง

          "วันนี้ ผมตั้งใจจะฆ่าตัวตาย แต่เป็นเพราะคุณ ทำให้ผมล้มเลิกความคิดนั้น ขอบคุณนะ คุณคือคนที่งดงามมาก"

          แม้ว่าน้ำใจของเคซีย์จะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ที่ดูไม่สลักสำคัญสำหรับบางคน แต่มันมีความหมายที่ยิ่งใหญ่สำหรับใครอีกหลายคน รวมถึง คริส ที่ทำให้เขาได้ตระหนักว่า ยังมีคนที่จิตใจดีหลงเหลืออยู่บนโลกใบ คือเคซีย์ คนที่นั่งอยู่ตรงนี้และรับฟังเขาคนนี้นี่เอง โดยเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่อในโลกออนไลน์ไปกว่า 230,000 ครั้งแล้ว นับตั้งแต่ได้รับการบอกเล่าจากเคซีย์เมื่อปีที่ผ่านมา

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Casey Fischer
http://hilight.kapook.com/view/142818

No comments:

Post a Comment