Sunday, September 6, 2015

พบเด็ก 2 ขวบถูกครอบครัวละเลย รอดชีวิตได้เพราะ แม่สุนัข ให้นม




               ชิลีพบเด็กชาย 2 ขวบถูกครอบครัวละเลย ปล่อยให้อดน้ำอดอาหารจนมีภาวะขนาดสารอาหาร ต้องดูดนมแม่สุนัขประทังชีวิต


                เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2558 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ  เปิดเผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่อเด็กชายวัย 2 ขวบคนหนึ่ง ถูกทิ้งให้อยู่ตัวคนเดียว เพราะแม่ขี้เมาของเขาเอาแต่เมาจนไม่มาเหลียวแลแม้แต่น้อย ปล่อยให้อดข้าวอดน้ำ แต่หนูน้อยกลับมีชีวิตอยู่รอดได้ เพราะแม่สุนัขตัวหนึ่ง มันให้หนูน้อยได้ดูดนมของมันราวกับเป็นลูก

                เรื่องราวเรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองอาริกา ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งให้ไปช่วยเหลือเด็กชายวัย 2 ขวบ ซึ่งถูกละเลย ใช้ชีวิตคลุกดินคลุกฝุ่นอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่มีใครเหลียวแล บริเวณอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุก็พบเด็กชายในสภาพเปลือยเปล่า มีภาวะผิวหนังติดเชื้อ และเป็นเหา จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองซานติอาโก 

 
                หลังจากเด็กชายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว แม่เด็กก็ปรากฏตัวขึ้น เธออยู่ในสภาพที่เมาแอ๋แทบจะพูดจาไม่รู้เรื่อง ขณะที่พ่อเด็กเองก็มาที่โรงพยาบาลเช่นกัน อย่างไรก็ดี ไม่ทราบว่าในช่วงเวลาที่เด็กถูกพบนั้น ทั้งพ่อและแม่เด็กอยู่ที่ไหน จึงปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังเช่นนั้น โดยตำรวจยืนยันว่าเด็กถูกละเลย ไม่ได้ทานอาหารอย่างชัดเจน

                 จากการสอบปากคำชาวบ้านละแวกนั้นคนหนึ่ง พบว่าเคยเห็นเด็กชายดูดนมจากเต้าสุนัขของเพื่อนบ้าน ชื่อว่า เจ้ารีนา ตำรวจจึงเชื่อว่าหนูน้อยดูดนมเจ้ารีนาเมื่อหิวโหย ทำให้หนูน้อยไม่อดตาย

                อย่างไรก็ดี หลังจากส่งหนูน้อยไปตรวจสภาพร่างกายที่โรงพยาบาล แพทย์ก็ยืนยันว่าหนูน้อยมีภาวะขาดสารอาหาร แต่ถึงอย่างนั้นหนูน้อยก็ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ เขาถูกส่งตัวต่อไปยังสถานสงเคราะห์เด็ก ให้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ต่อไป

                แม้จะชัดเจนว่าเด็กชายถูกละเลยจนมีภาวะขาดสารอาหาร แต่แม่ของเขากลับไม่ได้ถูกจับกุมแต่อย่างใด ด้วยเหตุผลเพราะเด็กชายไม่ได้รับอันตราย ได้รับบาดเจ็บใด ๆ

                อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หน่วยงานบริการเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ได้ยื่นฟ้องพ่อแม่เด็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่จะต้องขึ้นศาลในวันที่ 22 กันยายนนี้ เพื่อให้ศาลได้พิจารณาว่าเด็กชายควรอยู่ในการดูแลของใครต่อไป

ภาพจาก 24horas 
http://hilight.kapook.com/view/126010

No comments:

Post a Comment