จากกรณีเมื่อช่วงกลางดึกวันที่
11 ก.ย. ร.ต.ท.วิศรุต สุขสกุล พงส.สน.ลาดพร้าว
รับแจ้งเหตุแทงกันตายภายในห้องเลขที่ 502 ชั้น 5 อาคารบี เอเชีย รีสอร์ท ซอยแจ่มจันทร์ ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงคลองกุ่ม
เขตบึงกุ่ม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพบศพนายกฤษฎา ศรีนรินทรานนท์ อายุ 43 ปี อดีตผู้บริหารสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านรัชดาฯ นอนคว่ำหน้าเปลือยกาย โดยมีร่างของนายธัชกร
เหลืองอุทัย อายุ 28 ปี นอนทับอยู่ ตามร่างกายของทั้งคู่มีบาดแผลฉกรรจ์ทั่วตัว
เลือดไหลนองเต็มพื้นและมีดพกสั้น 2 เล่ม ตกอยู่ในห้อง
นอกจากนี้ ยังพบน.ส.ณัฏฐณิชา หรือเอ๊ะ สวัสดิผล อายุ 23 ปี
ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา
จากการสอบสวนพบว่า
นายกฤษฎามาเปิดห้องพักพร้อมกับน.ส.ณัฏฐณิชา โดยขับรถยนต์เลกซัส สีดำ
หมายเลขทะเบียน ฌง 294 กทม. มาไว้ที่ลานจอด ก่อนจะพากันขึ้นห้องพัก
ประมาณ 1 ช.ม.ต่อมาก็พบนายธัชกร เหลืองอุทัย อายุ 28 ปี ใช้เสื้อสีขาวปิดคลุมอำพรางใบหน้า ใส่เสื้อยืดสีขาว ในมือถือมีดพกสั้น
แอบเดินเข้ามาในตัวอาคารทางประตูบันไดหนีไฟ แล้วเข้าไปในห้องกระทั่งเกิดเหตุสลด
ผ่านไป 15 นาที น.ส.ณัฏฐณิชาเดินออกมาจากห้องพักก่อนตำรวจมาที่เกิดเหตุ
ซึ่งพบว่าสร้อยคอทองคำหนัก 9 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 3
องค์ หนึ่งในนั้นคือพระกริ่งหลวงปู่สรวงมูลค่า 2 แสนบาท และสร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท
ของนายกฤษฎาได้หายไป แต่รถยนต์ยังอยู่ ส่วนน.ส.ณัฏฐณิชาพบว่าติดหนี้นายกฤษฎาอยู่ 2
หมื่นบาท เบื้องต้นได้ตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ
เรื่องชู้สาว และความแค้นส่วนตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่
13 ก.ย. พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า
หลังจากเจ้าหน้าที่สอบสวนก็พบพิรุธ และทำให้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขอหมายจับจากศาล
ส่วนข้อหานั้นจะเปิดเผยให้ทราบหลังจากที่ศาลอนุมัติหมายจับแล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา
18.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว
เปิดเผยว่า วันนี้เมื่อเวลา 12.00 น. ได้เชิญตัวน.ส.ณัฏฐณิชา
หรือเอ๊ะ สวัสดิผล อายุ 23 ปี เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมที่สน.ลาดพร้าว
เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่ารู้จักกับนายธัชกรด้วย แต่ไม่ได้นัดแนะให้มาในคืนที่เกิดเหตุ
ซึ่งน.ส.ณัฏฐณิชายังคงให้การวกวนในหลายประเด็น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการสอบปากคำอย่างละเอียด
ส่วนการออกหมายจับนั้น
ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะกล่าวหาต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่น หนาเสียก่อน
ส่วนกรณีทรัพย์สินมูลค่าร่วม 5 แสนบาทของนายกฤษฎา ศรีนรินทรานนท์ อายุ 43
ปี ที่หายไปนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับแจ้งจากทางญาติผู้ตาย แต่จากการตรวจค้นรถของน.ส.ณัฏฐณิชาก็ไม่พบทรัพย์สินอะไรของนายกฤษฎา
หากทรัพย์สินนั้นหายไปจริง ต้องสอบปากคำทุกคนที่เข้าไปในห้องอย่างละเอียด แต่เพื่อความประมาท
ได้ประสานเจ้าหน้าที่ของโรงแรมให้ตรวจสอบหาทรัพย์สินดังกล่าวบริเวณโดยรอบ โรงแรมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า หลังเกิดเหตุน.ส.ณัฏฐณิชาได้เดินเข้าออกห้องที่เกิดเหตุด้วยเท้าเปล่า
ด้วยท่าทางปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วหายไป โดยที่ไม่ทราบว่าได้เอาอะไรติดตัวไปด้วยหรือไม่
ก่อนจะกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง แล้วออกจากห้องไปตามเจ้าหน้าที่ รปภ.ของอาคารมาตรวจสอบ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำน้องชายของนายธัชกร
เหลืองอุทัย อายุ 28 ปี ให้การว่า
พี่ชายของตนพักอาศัยอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และโดยสารเครื่องบินขึ้นมากทม.ในวันเกิดเหตุ
โดยให้เหตุผลกับทางบ้านว่ามีธุระด่วน หลังจากเกิดเหตุตนได้เข้าไปในเฟซบุ๊กของพี่ชายพบว่าพี่ชายกับน.ส.ณัฏฐณิชา
เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก จึงคาดว่าทั้งสองอาจจะรู้จักกัน
นอกจากนี้โทรศัพท์มือถือไอโฟนของพี่ชายได้หายไปด้วย ซึ่งหลังเกิดเหตุยังสามารถโทร.เข้าได้
แต่ขณะนี้โทร.ไม่ติดแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม ทราบว่านายธัชกรขับรถยนต์สีขาวไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น
มาที่โรงแรมในคืนเกิดเหตุ แต่หลังจากนั้นรถคันดังกล่าวกลับหายไป
ล่าสุดช่วงค่ำวันเดียวกัน
มีรายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ณัฏฐณิชา ยอมสารภาพแล้วว่าเป็นคนวางแผนทั้งหมดขึ้นเอง แต่ไม่ได้มีเจตนาจะสังหารเสี่ยกฤษฎา
โดยเรื่องเริ่มาจากไม่พอใจที่เสี่ยกฤษฎาถ่ายคลิปตอนที่ตนเองเสพยาไว้ จากนั้นก็นำคลิปมาแบล๊กเมล์
ทำให้เกิดความโกรธแค้นเป็นอย่างมาก จึงวางแผนให้นายธัชกรซึ่งรู้จักกันทางเฟซบุ๊คบินมาจากหาดใหญ่
โดยซื้อตั๋วเครื่องบินให้
โดยที่น.ส.ณัฏฐณิชาได้นัดเสี่ยกฤษฎาเปิดห้องพักที่รีสอร์ตดัง
กล่าว จากนั้นให้นายธัชกรปลอมเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ทำทีมาขอตรวจสอบห้องพัก
เพื่อจะหาข้ออ้างยึดมือถือของเสี่ยกฤษฎา ซึ่งในนั้นมีคลิปของน.ส.ณัฏฐณิชา
แต่เสี่ยกฤษฎาไม่หลงกล เกิดต่อสู้กับนายธัชกรจนเสียชีวิตทั้งคู่
ล่าสุดพนักงาน สอบสวนได้ดำเนินคดีน.ส.ณัฏฐณิชา
ในข้อหา "ใช้ จ้างวาน ยุยง ด้วยวิธีการใดๆ ให้ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา"
และควบคุมตัวไว้เพื่อ สอบปากคำเพิ่มเติม
ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1442159336
No comments:
Post a Comment